8 ตุลาคม พ.ศ. 2568 ณ อาคารหอประชุมสำนักงาน กสทช. คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน หรือ กตป. ร่วมกับ บริษัท อินไซท์ คอนซัลติ้ง รีเสิร์ช จำกัด จัดประชุมเพื่อสื่อสารประเด็นและเกณฑ์พร้อมกำหนดกรอบแนวทางสำคัญในการประเมินผลการดำเนินงานของ กสทช. สำนักงาน กสทช. และเลขาธิการ กสทช. ในมิติใหม่ที่ใช้การประเมินแบบ Rubric ซึ่งเป็นเกณฑ์การประเมินคุณภาพที่เชื่อมโยงกับกระบวนการและความหมายเชิงนโยบาย ทำให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่รอบด้าน เพื่อสร้างความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นการยกระดับมาตรฐานการกำกับดูแล นอกจากนั้น การประเมินเชื่อมโยงกับกรอบมาตรฐานที่ OECD Media board และ ITU ใช้ประเมินองค์กรกำกับดูแล 6 มิติ ได้แก่ โครงการและธรรมาภิบาลองค์กร อำนาจหน้าที่และขอบเขตการกำกับ กระบวนการและการมีส่วนร่วม ขีดความสามารถด้านนวัตกรรมและเครื่องมือการกำกับ ผลลัพธ์ของการกำกับ และการกำกับดูแลที่ยึดคุณค่าและหลักการที่พึงประสงค์

ในปี พ.ศ. 2568 นี้ กตป. 5 ด้าน ได้แก่ กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ กิจการโทรคมนาคม การคุ้มครองผู้บริโภค และการส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของประชาชน จะร่วมติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผล เพื่อสะท้อนภาพรวมการทำงานทั้งด้านโครงสร้าง บทบาท และผลลัพธ์จากการกำกับดูแลที่เกิดขึ้นจริงในสภาวการณ์ปัจจุบัน ซึ่งมีกำหนดระยะเวลาในการเก็บข้อมูลจากผู้มีส่วนได้เสียส่วนกลาง 8 กลุ่ม เก็บข้อมูลที่ส่วนภูมิภาค ได้แก่ จังหวัดนนทบุรี วันที่ 14-16 ต.ค. 2568 จังหวัดขอนแก่น วันที่ 4-6 พ.ย. 2568 จังหวัดสงขลา วันที่ 25-27 พ.ย. 2568 และจังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 16-18 ธ.ค. 2568 มีการสำรวจเชิงปริมาณ และให้ผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกแสดงความคิดเห็นถึงปัญหาจากการเก็บข้อมูลดังกล่าว นอกจจากนี้ยังพิจารณาจากการกำหนด KPI พ.ศ. 2568 ของแผนที่เกี่ยวข้อง อาทิ แผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ ฉบับ พ.ศ. 2567 แผนการบริหารสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม แผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม ฉบับที่ 3 แผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ฉบับที่ 2 แผนยุทธศาสตร์สำนักงาน กสทช. และนโยบายที่สำคัญของ กสทช.

อีกทั้งการประเมินผลสะท้อนความท้าทายประเด็นปัญหาต่อเนื่อง 3 ปี ในเรื่องการควบรวมกิจการโทรคมนาคมที่ส่งผลต่อการแข่งขันในตลาด การป้องกันภัยจาก SMS หลอกลวง และ Call Center การคุ้มครองสิทธิของกลุ่มเปราะบาง การทบทวนกติกาในกิจการโทรทัศน์ ด้านกฎ Must Carry และ Must Have และการเตรียมความพร้อมด้านการออกใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ที่จะสิ้นสุดในปี พ.ศ. 2572 เพื่อนำไปจัดทำรายงานนำส่งรัฐสภา ตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พร้อมจัดนิทรรศการเผยแพร่ข้อมูลการติดตามการดำเนินงานในช่วงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2569

พลตำรวจตรี เอกธนัช ลิ้มสังกาศ ประธานคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน และกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานด้านกิจการกระจายเสียง มุ่งเน้นการติดตามด้านความโปร่งใสในการจัดสรรคลื่นความถี่และการออกใบอนุญาตของผู้ประกอบกิจการให้สามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืน สืบเนื่องจากปัญหาต่อเนื่อง 3 ปีที่ผ่านมา อาทิ ด้านการจัดสรรคลื่นความถี่และการประมูลคลื่นความถี่ในระดับท้องถิ่น ด้านความต้องการให้กำกับมาตรฐานการออกอากาศและโฆษณาอย่างเข้มงวด ด้านการส่งเสริมเนื้อหาที่หลากหลาย และด้านการยกระดับวิทยุให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะใช้ในการแจ้งเตือนภัยได้อย่างแท้จริง จึงกำหนดเป้าหมายในปีพ.ศ. 2568 ไว้ดังนี้ ติดตามด้านการอนุญาตโครงข่ายวิทยุในระบบดิจิทัล ด้านการเพิ่มผู้รับใบอนุญาต ด้านการลดสถิติการรบกวนการบิน และด้านเรตติ้งวิทยุ เพื่อผลักดันให้การแข่งขันในกิจการกระจายเสียงไทยเป็นไปอย่างยั่งยืน
ดร. พันธ์ศักดิ์ จันทร์ปัญญา กรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน ด้านกิจการโทรทัศน์ มุ่งเน้นการติดตามด้านการจัดสรรที่ชัดเจน ยืดหยุ่น ทันสมัย และประชาชนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม สืบเนื่องจากปัญหาต่อเนื่องคือ การออกใบอนุญาตฯ หลังปี พ.ศ. 2572 มีแนวทางที่ยังไม่ชัดเจน และไม่ยืดหยุ่นต่อเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ รวมทั้งหลักเกณฑ์ Must Carry และ Must Have ที่ต้องทบทวน เพื่อรักษาสมดุลระหว่างสิทธิผู้ชมและการแข่งขันกันเองอีกทั้งยังต้องเร่งส่งเสริมเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ การเข้าถึงของผู้พิการ และการใช้ AI เพื่อยกระดับมาตรฐานการกำกับดูแล จึงกำหนดเป้าหมายในปี พ.ศ.2568 ไว้ดังนี้ ติดตามประเด็นทีวีชุมชนต้นแบบ การเสริมบทบาทเคเบิลทีวี และใช้งานวิจัยเพื่อออกแบบโครงสร้างโทรทัศน์ไทยในอนาคต ควบคู่กับการผลักดันกฎหมายที่ทันสมัย ส่งเสริม Co-production และการปรับตัวของอุตสาหกรรมสู่ดิจิทัล เพื่อให้โทรทัศน์ไทยก้าวต่อไปได้อย่างยั่งยืน

รองศาสตราจารย์ ดร. อุรุยา วีสกุล กรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน ด้านกิจการโทรคมนาคม มุ่งเน้นการติดตามด้านการแข่งขันที่เป็นธรรม ประชาชนปลอดภัยในการใช้บริการ และการเข้าถึงการใช้งานได้อย่างเท่าเทียม สืบเนื่องจากปัญหาต่อเนื่อง ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคจากอาชญากรรมออนไลน์ การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล และความปลอดภัยทางไซเบอร์ รวมถึงปัญหาความโปร่งใสในการจัดสรรคลื่นความถี่ที่ยังเป็นอุปสรรคต่อการแข่งขันในภาคโทรคมนาคม และการเปิดตลาดให้ผู้เล่นรายใหม่ จึงกำหนดเป้าหมายในปี พ.ศ. 2568 ไว้ดังนี้ ติดตามประเด็นการสร้างโอกาสแก่ผู้ประกอบการรายใหม่ควบคู่กับการขยายโครงข่ายอินเทอร์เน็ตและการใช้ประโยชน์จาก USO Net การจัดทำ Spectrum Roadmap เพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่ การสนับสนุนการใช้คลื่นความถี่เพื่อประโยชน์สาธารณะอย่างการบรรเทาสาธารณภัย และการยกระดับมาตรฐานอุปกรณ์ และกลไกกำกับดูแล เพื่อให้โทรคมนาคมไทยแข่งขันได้ โปร่งใส และปลอดภัยในยุคดิจิทัล
พลเอก สิทธิชัย มากกุญชร กรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค มุ่งเน้นการติดตามด้านการสร้างความเชื่อมั่นในมาตรฐานการคุ้มครองผู้บริโภคในทุกกิจการ สืบเนื่องจากรายงานต่อเนื่อง 3 ปี ที่ผ่านมา ปัญหาสำคัญยังคงเป็นการกำกับบริการหลังการควบรวมของผู้รับใบอนุญาตกิจการโทรคมนาคม ปัญหาด้าน SMS หลอกลวง และ Call Center ที่ต้องจัดการเชิงรุก และความซับซ้อนของระบบร้องเรียนที่ไม่รองรับผู้พิการ ล้วนเป็นโจทย์ที่ต้องเร่งปรับปรุง เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับการคุ้มครองอย่างแท้จริง จึงกำหนดเป้าหมายในปี พ.ศ. 2568 ไว้ดังนี้ ติดตามประเด็นการยกระดับมาตรฐานบริการและความโปร่งใส โดยกำกับดูแลบริการแบบหลอมรวม หรือ Bundle Services สำรวจความเป็นธรรมจากการรับบริการ ติดตามสถิติเรื่องร้องเรียน และเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของเครือข่ายผู้บริโภค ควบคู่กับการส่งเสริม Mobile ID และทักษะดิจิทัล เพื่อให้ผู้บริโภคไทยมั่นใจ ปลอดภัย และเท่าเทียมในยุคดิจิทัล
นางสาวอิสรารัศมิ์ เครือหงส์ กรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน ด้านการส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของประชาชน มุ่งเน้นการติดตามเพื่อสิทธิที่เท่าเทียม ด้านเสรีภาพที่ต้องได้รับการปกป้อง และการสื่อสารเพื่อความปลอดภัยของประชาชนในทุกกิจการ สืบเนื่องจากรายงานต่อเนื่อง 3 ปี ที่ผ่านมา ปัญหาต่อเนื่องคือ การกำกับดูแลด้านการควบรวมกิจการโทรคมนาคมและบริการอินเทอร์เน็ตที่ต้องป้องกันการผูกขาด และส่งเสริมสิทธิของประชาชนอย่างสมดุล รวมถึงการจัดการอาชญากรรมไซเบอร์ที่ต้องบูรณาการเป็นวาระแห่งชาติ ขณะเดียวกัน สิทธิของผู้พิการและกลุ่มเปราะบาง ยังต้องได้รับการสนับสนุนด้านบริการดิจิทัล และโครงการ USO เพื่อเข้าถึงข้อมูลอย่างเท่าเทียม จึงกำหนดเป้าหมายในปี พ.ศ. 2568 ไว้ดังนี้ ติดตามตามแผนให้มีการบริการพื้นฐานที่ทั่วถึงและบริการเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ตรวจสอบด้านมาตรการต่าง ๆ บรรลุเป้าหมายภายในกรอบเวลาที่กำหนด พร้อมทั้งมีการประเมินการเข้าถึงและการรู้เท่าทันสื่อของประชาชน และการสำรวจสมรรถนะดิจิทัล โดยเฉพาะในกลุ่มคนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส เพื่อให้สิทธิขั้นพื้นฐานด้านการสื่อสารที่เป็นของประชาชนทุกคน
การติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการดำเนินการและการบริหารงานของ กสทช. สำนักงาน กสทช. และเลขาธิการ กสทช. รวมถึงนโยบายที่สำคัญประจำปี 2568 ไม่เพียงวัดผลการปฏิบัติงาน แต่ต้องการยกระดับธรรมาภิบาล สร้างความเป็นธรรมทางการสื่อสาร คุ้มครองสิทธิผู้บริโภค และขับเคลื่อนองค์กรการกำกับดูแลให้ก้าวสู่มาตรฐานระดับสากล
ติดต่อประสานงานหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ นางสาวจุฑาพันธ์ อุไรลักษมี (พลอย) โทรศัพท์มือถือ 081 812 0332 หรือ 094 534 7028 อีเมล์ juthapan.wrf@gmail.com